วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558

การกินอาหาร กับ โรคต่างๆ (โดยเฉพาะมะเร็ง)

การกินอาหาร กับ โรคต่างๆ (โดยเฉพาะมะเร็ง)

วันนี้อยากจะคุยเรื่องการกิน กินอย่างไรให้ห่างไกลโรค....ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดจะเขียนมานานแล้ว แต่บิ้วอารมณ์ยังไม่ได้ซักที วันนี้อารมณ์พอได้ที่ ขอเขียนเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันซักนิดนะครับ
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจ ว่าระบบร่างกายของเราเป็นอย่างไร ไม่ต้องรู้เรื่องอะไรมาก มารู้แค่เรื่องลำไส้ของคนเราพอ คนเรามีลำไส้รวมแล้ว ยาวประมาณ 30 ฟุต หรือประมาณ 9 เมตร ซึ่งการที่คนมีลำไส้ที่ยาวนี่เองจึงจำเป็นต้องมาการกินอาหารอย่างถูกวิธี เพื่อที่จะให้ห่างจากโรคภัยต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็ง ซึ่งคร่าชีวิตคนไทยเป็นลำดับต้นๆ
เมื่อเรารู้เรื่องลำไส้แล้ว มาดูว่าเราควรจะกินอาหารอย่างไรให้ห่างไกลโรค ซึ่งผมขอแบ่งอาหารเป็นสองประเภท คือ ประเภทที่เป็นกรด และประเภทที่เป็นด่าง ร่างกายคนต้องการอาหารประเภทเป็นด่าง ประมาณ PH 7-7.5 ซึ่งจะทำให้การทำงานของร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
    อาหารที่มีสภาพเป็นกรด ( Acid Food)    
             - เนื้อสัตว์ทุกชนิด ปลา และไข่
             - น้ำชา กาแฟ
             - เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
             - ผงชูรส
             - ของหมักของดอง น้ำส้มสายชู
             - แป้ง และเมล็ดข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ขัดสีจนขาวแล้ว
             - น้ำมัน ไขมันทุกชนิด และอาหารทอดน้ำมัน
             - อาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาล
 โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำตาลทรายขาว และผลิตภัณฑ์จากน้ำตาล เช่น แยม วุ้น น้ำเชื่อม ลูกกวาด ขนมหวาน ไอศกรีม ผลไม้กระป๋อง น้ำอัดลม โดยเฉพาะน้ำอัดลมจะมีความเป็นกรดสูงมาก และทำให้ฟันผุเร็วอีกด้วย


     อาหารที่มีสภาพเป็นด่าง ( Alkaline Food )    
          - พืชตระกูลถั่ว ถั่วเหลืองมีความเป็นด่างมากที่สุด แพทย์โบราณจึงมักนิยมใช้ถั่วเหลืองทำเป็นอาหารนานาชนิด ที่จะช่วยปรับสภาพผู้ป่วยที่ร่าง กายมีสภาพความเป็นกรดมากเกินไป
          - ผักทุกชนิด โดยเฉพาะผักใบเขียว ยอดอ่อนของพืชผักต่างๆ ช่วยซึมซับสิ่งสกปรกที่ร่างกายไม่ต้องการออกไปได้อย่างดี
          - น้ำผึ้ง และน้ำตาลอ้อย
          - นม เนย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนมที่ทำจากเนย (buttermilk)
          - ลูกนัท อัลมอนด์
          - ผลไม้ และน้ำผลไม้สด อาหารชนิดนี้จะมีสภาพความเป็นด่างสูง สามารถย่อยตัวของมันเองได้เมื่อกระทบกับน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ดังนั้น อวัยวะย่อยอาหารแทบจะไม่ต้องทำงานเลย
          - มะละกอ มีเอ็นไซม์ช่วยย่อยอาหาร มีประโยชน์อย่างยิ่งต่ออวัยวะอาหารและขับถ่าย
          - แอปเปิ้ล อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่ง่ช่วยสลายสารพิษในปาก ช่วยทำความสะอาดเหงือก
          - สับปะรด มีสารโบรเมลิน ช่วยทำความสะอาดตับอ่อน
          - มะเขือเทศ มีความเป็นด่างสูงมาก ช่วยลดความเป็นกรดสูงในร่างกายของคนได้ดี
          - กล้วย มีโพแทสเซียมอยู่มากจึงเป็นยาบำรุงประสาทที่ดีในกรณีที่ประสาทตึงเครียด
          - มะพร้าว ช่วยบำบัดโรคที่เกิดจากความเป็นกรดสูงของร่างกาย
          - มะนาว แม้ว่าจะมีความเปรี้ยวเป็นกรดในตัวเอง แต่มันจะกลายเป็นด่างเมื่ออยู่ในกระบวนการย่อย แพทย์แผนโบราณจึงมักใช้น้ำมะนาวเป็นยา ในการบำบัดโรค
          - ส้ม เป็นอาหารที่ช่วยในการทำความสะอาด มีวิตามินซีสูง
          - สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ลูกเกด มีค่าเป็นด่าง แต่ต้องกินเวลาสุก ส่วนตอนดิบจะมีสภาพเป็นกรด
เครดิต ...thaiza

เมื่อเรารู้ว่าร่างกายต้องการอาหารที่เป็นด่างแล้ว ควรจะกินอะไร....และอะไรที่เป็นด่างบ้าง....เอาแบบจำง่ายๆ อาหารที่เป็นกรดส่วนมากจะเป็นพวกเนื้อสัตว์ ทุกชนิด ส่วนอาหารที่เป็นด่าง ได้แก่ผัก ผลไม้ ซึ่งอัตราส่วนการกินในแต่ละวันควรเป็นดังนี้ คือ เราควรทานเนื้อสัตว์ ไม่เกิน30% และผักผลไม้ประมาณ 70% ซึ่งก็คือทานผักเป็นส่วนใหญ่ และผักที่ดีควรที่จะเป็นผักที่ปลอดสารพิษ มาดูเหตุผลกันว่าทำไมถึงต้องทานผักมากกว่าเนื้อสัตว์

จากที่กล่าวมาแล้ว ลำไส้คนเรายาวประมาณ 30 ฟุต ซึ่งยาวกว่าสัตว์ที่กินเนื้อทั่วๆ ไป อาหารประเภทเนื้อ มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากผัก ผลไม้คือ เนื้อ หากมีการฆ่าสัตว์แล้วมาวางไว้เฉยๆ เทียบกับผัก ผลไม้ ไม่เกิน 1 วันเนื้อจะเน่า ส่วนผัก ผลไม้จะอยู่ได้หลายวัน ด้วยเหตุผลนี้นี่เอง หากเนื้อที่เรากินไป มีการฆ่าแล้วเก็บไว้หลายวัน และเรากินไปกว่าจะขับถ่าย ยิ่งคนที่การขับถ่ายไม่ปรกติ สองวัน สามวันถ่ายที ลองคิดดูล่ะกันเนื้อที่เรากินไปจะเน่าอยู่ในลำไส้เรา ลำไส้ก็จะดูดซึมซากเนื้อเน่าเอาไปสะสมในร่างกาย จะกว่าจะขับถ่ายออกมา ส่วนผัก เมื่อกินเข้าไปหลายๆวัน ก็จะยังไม่เน่า ดังนั้น อย่าลืมพยายามขับถ่ายให้ได้วันละครั้ง ทานน้ำเยอะๆ ทานผักที่ปลอดสารพิษ ทานเนื้อน้อยๆ เท่านี้ก็จะห่างไกลโรค รวมทั้งห่างไกลมะเร็ง

แถมให้ เรื่อง "ศัตรูของมะเร็ง" 
●ศัตรูของมะเร็งกระเพาะอาหาร
คือกระเทียม
●ศัตรูของมะเร็งตับ
คือเห็ด
●ศัตรูของมะเร็งตับอ่อน
คือบร็อคโคลี่
●ศัตรูของมะเร็งปอด
คือผักโขม
●ศัตรูของมะเร็งลำไส้
คือหน่อไม้น้ำ
●ศัตรูของมะเร็งเต้านม
คือสาหร่ายทะเล
●ศัตรูของมะเร็งผิวหนัง
คือหน่อไม้ฝรั่ง
●ศัตรูของ มะเร็งปากมดลูก
คือถั่วเหลือง
จะเห็นว่ามีแต่ผักเท่านั้นที่เป็นศัตรูของมะเร็ง
นี่แระคือเหตุผลว่าทำไมเราควรทานผักให้มากกว่าเนื้อสัตว์ และขอให้เป็นผักที่ปลอดสารพิษ และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่จ่าเอกอยากจะทำเรื่องผักปลอดสารพิษ ให้ทุกคนได้ทาน อย่าลืมอุดหนุนผักปลอดสารพิษ และสินค้าแปรรูปจากเห็ด จากฟาร์ม จ่าเอกฟาร์มเห็ดไฮเทคด้วยนะครับ
หวังว่าการนั่งเขียนเรื่องนี้คงเป็นประโยชน์กับผู้ได้อ่าน ไม่มากก็น้อยนะครับ....ขอบคุณที่อ่านจนจบ...

ค้นหาบล็อกนี้